วันที่ 26 พฤษภาคม 2568 นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานเปิดโครงการคัดกรองมะเร็งเต้านม โดยเครื่องเอ็กซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ (Mammogram) ในสตรีกลุ่มเสี่ยงและผู้ด้อยโอกาส 4 หน่วย 4 ภาค เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 และโครงการคัดกรองมะเร็งนรีเวช (พื้นที่อำเภอกุดชุม อำเภอเลิงนกทา และอำเภอไทยเจริญ) ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอกุดชุม จังหวัดยโสธร โดยมี ดร.นายแพทย์ อิทธิพล สูงแข็ง ผู้แทนมูลนิธิกาญจนบารมี หัวหน้าหน่วยคัดกรองมะเร็งเต้านมเคลื่อนที่หน่วย ประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นายแพทย์รัฐศาสตร์ สุดหนองบัว รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยโสธร คณะหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่และบุคลากรสาธารณสุขจังหวัดยโสธร ตลอดจนอาสาสมัครสาธารณสุขจังหวัดยโสธร ประชาชนกลุ่มเสี่ยงและด้อยโอกาสร่วมพิธีและกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร กล่าวว่า สตรีไทยมีความเสี่ยงหลายเรื่องจากโรคภัยคุกคามทางสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ และที่น่าเป็นห่วงคือโรคมะเร็งเต้านมที่มีอัตราป่วยเพิ่มสูงขึ้น โดยสถิติของจังหวัดยโสธร พบว่าปี 2565-2567 มีผู้ป่วยมะเร็งเต้านม 983 คน 1,147 คน และ 1,128 คน ตามลำดับ และการป้องกันที่ดีที่สุดคือการตรวจพบให้เร็วที่สุด ตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ไม่ว่าจะเป็น การตรวจเต้านมด้วยตนเองทุกเดือน การตรวจโดยเจ้าหน้าที่ และการตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์เต้านม และระหว่างวันที่ 26-27 พฤษภาคม 2568 นี้ ถือเป็นโอกาสดีของสตรีในอำเภอกุดชุม อำเภอเลิงนกทา และอำเภอไทยเจริญ ที่ได้รับโอกาสจากมูลนิธิกาญจนบารมีในการจัดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม โดยเครื่องเอกซเรย์เต้านมเคลื่อนที่ และเครื่องคัดกรองมะเร็งปากมดลูกโดยสูตินารีแพทย์ เพื่อตรวจมาค้นหาผู้ป่วยให้ได้รับการรักษาอย่างเร็วที่สุด ซึ่งจะลดอัตราการเสียชีวิตจากมะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูกให้สตรีชาวยโสธรได้ โดยเป็นการให้บริการฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย และหวังว่าผู้มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นกระบอกเสียงและเครือข่ายในการประชาสัมพันธ์ สร้างความตระหนักรู้แก่สตรีคนอื่น ๆ ในพื้นที่ ให้ได้เห็นถึงความสำคัญของการตรวจเต้านมด้วยตนเองเป็นประจำทุกเดือน หากตรวจพบความผิดปกติให้รีบมาพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาโดยเร็ว ซึ่งจะลดความรุนแรงของการเป็นมะเร็งเต้านม และสามารถรักษาหายขาดได้ 80 – 90 %

ด้าน ดร.นายแพทย์ อิทธิพล สูงแข็ง ผู้แทนมูลนิธิกาญจนบารมี หัวหน้าหน่วยคัดกรองมะเร็งเต้านมเคลื่อนที่หน่วย ประจำภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2535 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมผู้ป่วยที่สถานพักฟื้นผู้ป่วยโรคมะเร็งธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี พระองค์ทรงทราบถึงปัญหาและความเดือดร้อนของราษฎรและผู้ป่วยมะเร็งที่ต้องรอรับการรักษา จึงทรงพระราชดำริให้จัดสร้างศูนย์บำบัดรักษาโรคมะเร็งขึ้น เพื่อรองรับการรักษาผู้ป่วยในจังหวัดปทุมธานีและจังหวัดใกล้เคียง โดยทรงรับเป็นองค์ประธานในการระดมทุนเพื่อจัดสร้างศูนย์บำบัดรักษาโรคมะเร็งภายใต้ชื่อโครงการกาญจนบารมีเฉลิมฉลองพระราชพิธีกาญจนาภิเษก ปีพุทธศักราช 2539 โดยทุกภาคส่วนได้ร่วมทูลเกล้าถวายเงินสร้างศูนย์บำบัดรักษาโรคมะเร็งขึ้นมา และได้รับพระราชทานพระราชานุญาตใช้พระนามเป็นชื่อว่า ศูนย์มหาวชิราลงกรณ ธัญบุรี ภายหลังเปลี่ยนเป็น โรงพยาบาลมหาวชิราลงกรณธัญบุรี และทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯ ให้คณะกรรมการของโครงการกาญจนบารมีจัดตั้ง “มูลนิธิกาญจนบารมี” ขึ้นมาเพื่อให้โรงพยาบาลดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง มีประสิทธิภาพ และบรรลุวัตถุประสงค์ตามเป้าหมายในการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ยากไร้ สนับสนุนส่งเสริมการป้องกันและควบคุมโรคมะเร็ง ให้ทุนการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับโรคมะเร็ง และร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่นๆ และสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ  โดยแบ่งจุดบริการออกเป็น 9 จุด ประกอบด้วย จุดที่ 1 ลงทะเบียน จุดที่ 2 ชั่งน้ำหนัก/วัดส่วนสูง/วัดความดัน จุดที่ 3 ซักประวัติโดยแบบคัดกรองของมูลนิธิกาญจนบารมี จุดที่ 4 สอนฝึกตรวจเต้านมจากหุ่น จุดที่ 5 ชมวีดิทัศน์ จุดที่ 6 ตรวจเต้านมโดยพยาบาลวิชาชีพ จุดที่ 7 ตรวจเต้านมโดยศัลยแพทย์ จุดที่ 8 ตรวจ Mammogram / Colposcopy / LEEP / อื่น ๆ และจุดที่ 9 ส่งต่อ Exit Nurse