• กลุ่มข่าว : สังคมและคุณภาพชีวิต

  • พ่อเมืองยโสธร นำทัพผู้บริหารร่วมประชุมใหญ่ระดับชาติ ขับเคลื่อนยุทธการ ‘Thailand Zero Drugs’ ย้ำ 3 เดือนต้องเห็นผลจริง
    ผู้โพสต์ : [สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธรทั่วไป
    แก้ไขโดย : [สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดยโสธร] วันที่ 7 ส.ค. 2568 (15:51 น.)

     วันพฤหัสบดี ที่ 7 สิงหาคม 2568 เวลา 10.15 น.  ณ ห้องรอยัล จูบิลี่ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นำโดย นายชาญชัย  ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร รองผู้ว่าราชการ จังหวัดยโสธร (ด้านความมั่นคง) ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยโสธร ปลัดจังหวัดยโสธร หัวหน้า สำนักงานจังหวัดยโสธร พัฒนาการจังหวัดยโสธร ท้องถิ่นจังหวัดยโสธรนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ยโสธร นายอำเภอทุกอำเภอ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดยโสธร และประธานชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน ระดับอำเภอทุกอำเภอ เข้าร่วมการรับฟังนโยบายสำหรับใช้เป็นแนวทางในการขับเคลื่อนการปฏิบัติราชการของ กระทรวงมหาดไทย ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยเฉพาะการรับมอบนโยบายแก้ปัญหายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดยโสธรอย่างเข้มข้น ทั้งนี้  โดยมีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้มอบนโยบายแก้ปัญหายาเสพติดอย่างเข้มข้น โปร่งใส ไม่ละเว้น ครอบคลุมมาตรการป้องกัน ป้องปราม ปราบปราม บำบัดรักษา พร้อมผนึกกำลัง "มหาดไทย-ตำรวจ-สาธารณสุข" กวาดล้างยาเสพติดเชิงรุกทุกพื้นที่ (Thailand Zero Drugs) 
    นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน Kick off กิจกรรมผนึกกำลัง "มหาดไทย - ตำรวจ-สาธารณสุข" ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติดเชิงรุกทุกพื้นที่ (Thailand Zero Drugs) โดยมี นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายเกรียงเดช เข็มทอง ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ คณะทำงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ร่วมในงานมากกว่า 3,000 คน ณ ห้องรอยัลจูบิลี่ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี และถ่ายทอดสดผ่านระบบออนไลน์ไปยังทุกพื้นที่ทั่วประเทศ มีผู้รับชมกว่า 30,000 คน
    สำหรับการจัดงานดังกล่าว ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด และผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกัน Kick Off ส่งมอบรายชื่อผู้ติดยาเสพติด 188,626 ราย ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายเข้ารับการบำบัดฟื้นฟู และผู้ค้ายาเสพติด 16,036 ราย ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายดำเนินคดีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า
    "ประเทศไทยต้องปลอดยาเสพติดทั่วทั้งแผ่นดิน ภายใน 3 เดือนนี้ต้องเห็นผลเป็นรูปธรรมชัดเจน อย่างน้อยที่สุดจะได้รู้ว่าการร่วมมือกันทั้งหมดภายใน 3 เดือน ฯลฯ  โดยได้เน้นย้ำ 4 นโยบายที่สำคัญเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด ทั้งการป้องกัน ป้องปราม ปราบปราม และบำบัดรักษา ได้แก่
    1. มาตรการป้องกัน ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ร่วมกันบูรณาการทำงานประสานแลกเปลี่ยนข้อมูล วางกำลังร่วมกันและจัดกำลังเพื่อสนับสนุนภารกิจของกันและกัน  เน้นย้ำให้ทุกหมู่บ้านเสริมสร้างบทบาทกลไกชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) 670,000 คน นำโดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เป็นฐานสำคัญที่จะชี้วัดว่ายาเสพติดครั้งนี้ในชุมชน/หมู่บ้านดีขึ้นหรือไม่ ทำเป็นตาสับปะรดให้รัฐบาลชี้วัดได้ว่าสำเร็จหรือไม่สำเร็จ ปัญหาอยู่ตรงไหน รวมทั้งใช้กลไกชุมชนเป็นเครือข่ายตาสับปะรดเฝ้าระวังป้องกันเพื่อลดโอกาสสมาชิกในหมู่บ้านชุมชนเข้าไปยุ่งเกี่ยวยาเสพติด และน้อมนำหลักการและแนวคิดกองทุนแม่ของแผ่นดิน มาช่วยเสริมสร้างพลังแห่งความดีของสมาชิกในหมู่บ้าน/ชุมชน เพื่อสนับสนุนร่วมมือการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้านและชุมชนอย่างยั่งยืน
    2. มาตรการป้องปราม ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด บูรณาการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อจัดทำข้อมูลบัญชีพื้นที่ระบุหมู่บ้าน/ชุมชนที่เป็นพื้นที่เสี่ยง เพื่อนำมาตรการเชิงรุกเข้าควบคุมใช้ในการทำงานจัดระเบียบสังคม และควบคุมสถานที่เสี่ยง สถานบันเทิงที่เป็นแหล่งมั่วสุมยาเสพติดไม่ให้เป็นแหล่งกระจายยาเสพติด ตัดวงจรและสกัดกั้นการเข้าถึงยาเสพติดทุกพื้นที่ ตั้งจุดตรวจ/จุดสกัด เพื่อยับยั้งโอกาสในการเกิดการกระทำความผิด โดยกำชับและเน้นย้ำนายอำเภอใช้กลไก Seal Stop Safe ตรวจตราชายแดนทุกช่องทาง โดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติให้มากขึ้นและขยายผลครอบคลุมทั่วประเทศ
    3. มาตรการปราบปราม ยึดหลักเด็ดขาด โปร่งใส ไม่ละเว้น "ถ้าชาวบ้านรู้ แต่เจ้าหน้าที่ไม่รู้ ถือเป็นความผิด" ด้วยการสืบสวนขยายผลจับกุมผู้ค้าและผู้เกี่ยวข้องทุกระดับควบคู่การค้นหาผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในทุกพื้นที่ ทุกตารางนิ้ว บูรณาการร่วมกันอย่างไร้รอยต่อระหว่างตำรวจ ทหาร หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ และกลไกฝ่ายปกครอง โดยเน้นย้ำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้นำบูรณาการปราบปรามยาเสพติดบนข้อมูลสถานการณ์จริงตามบริบทและความเหมาะสมของพื้นที่ ใช้กลไกฝ่ายปกครองในพื้นที่สนับสนุนด้านการข่าว ถ้าแม่นยำตรวจตราได้ลึกถึงผู้ค้าผู้บงการก็จะมีกลไก ป.ป.ง. เข้ามาเกี่ยวข้องและตรวจสอบลึกลงไปจนถึงต้นทางเพื่อยึดทรัพย์ผู้ค้าโดยเฉพาะรายใหญ่ ๆ ด้วย
    4. มาตรการบำบัดฟื้นฟู ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อคืนคนคุณภาพสู่สังคม ผู้เสพต้องได้รับโอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยยึดการปฏิบัติตามหลักการ "ผู้เสพคือผู้ป่วย" ส่งเข้าบำบัดรักษาแทนการดำเนินคดี ลดการตีตรา และสร้างโอกาสการเรียนรู้ในอาชีพให้ผู้ผ่านการบำบัดได้กลับเข้าสู่สังคมอย่างเป็นสุขและเป็นธรรม รวมทั้งพัฒนาการการดำเนินงานศูนย์ฟื้นฟูสภาพทางสังคมทั้งระดับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ควบคู่กับการยกระดับศูนย์บำบัดยาเสพติดในพื้นที่ให้มีมาตรฐานเดียวกัน โดยดำเนินการ "1 จังหวัด 1 สถานฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด เป็นอย่างน้อย" และพัฒนาระบบติดตามผู้ผ่านการบำบัดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าผู้ผ่านการบำบัดดังกล่าวจะไม่กลับไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดซ้ำอีก
    ทั้งนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ฯ เชื่อมั่นว่า ความมุ่งมั่นการดำเนินงานอย่างจริงจังของกลไกมหาดไทยและทุกระดับ พลังของการบูรณาการหน่วยงานของประเทศในการแก้ไขปัญหายาเสพติด "ทุกหมู่บ้าน ชุมชน" จะต้องปลอดภัยจากยาเสพติด "No Drugs No Dealers สู่ Zero Drugs Thailand ประเทศไทยต้องปลอดยาเสพติด"........
    **************
    จีระสุข ชินะโชติ /รายงาน
    กองสารนิเทศ สป.มท./ข้อมูล